แหล่งเงินทุนระยะสั้นสำหรับSME
แหล่งเงินทุนระยะสั้นสำหรับ SME
แหล่งเงินทุนระยะสั้นสำหรับ SME มีหลายประเภท โดยแต่ละแหล่งมีเงื่อนไขและข้อดีข้อเสียต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของธุรกิจ
แหล่งเงินทุนระยะสั้น ที่นิยมใช้ ได้แก่
1. สินเชื่อระยะสั้นจากธนาคาร
สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน (Working Capital Loan): เป็นสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง สามารถนำไปใช้จ่ายในกิจการ เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าสถานที่สินเชื่อเบิกเงินเกินบัญชี (OD - Overdraft) : ธุรกิจสามารถเบิกเงินจากบัญชีเกินกว่ายอดคงเหลือได้ตั๋วสัญญาใช้เงิน (Promissory Note - P/N): กู้เงินโดยออกตั๋วสัญญาใช้เงิน และจ่ายคืนเมื่อครบกำหนด
2. สินเชื่อจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เงินทุนระยะสั้น
เช่น ธนาคารออมสิน, ธนาคาร SME D Bank, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) มีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อสนับสนุน
3. แฟคตอริ่ง (Factoring)
ขายใบแจ้งหนี้ (Invoice) ให้บริษัทแฟคตอริ่งเพื่อรับเงินล่วงหน้า โดยธุรกิจไม่ต้องรอลูกค้าจ่ายเงิน
4. สินเชื่อจากแพลตฟอร์ม P2P Lending
กู้เงินจากนักลงทุนผ่านแพลตฟอร์ม เช่น PeerPower, Julo หรือ Finnix ซึ่งมีกฎระเบียบจาก ก.ล.ต. ควบคุม
5. บัตรเครดิตธุรกิจ (Business Credit Card)
เหมาะสำหรับค่าใช้จ่ายหมุนเวียนในระยะสั้น และสามารถได้รับเครดิตปลอดดอกเบี้ย 30-45 วัน
6. สินเชื่อจากบริษัทเอกชน (Non-Bank & FinTech)
เช่น เงินกู้จาก Shopee, Lazada หรือ LINE BK ที่เหมาะกับ SME ที่ขายของออนไลน์ เงินทุนระยะสั้น
7. เงินกู้จากกองทุนหรือหน่วยงานรัฐ
เช่น กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ หรือโครงการสนับสนุน SME ของ BOI
ข้อควรพิจารณาก่อนเลือกแหล่งเงินทุน เงินทุนระยะสั้น
เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม ตรวจสอบเงื่อนไขและระยะเวลาการชำระคืน เลือกแหล่งเงินทุนที่เหมาะกับลักษณะธุรกิจ
หากคุณต้องการแนะนำที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ สามารถบอกเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจ เช่น ขนาด กิจการประเภทไหน และเป้าหมายในการขอสินเชื่อ
เงินทุนระยะสั้นสำหรับ SME: ปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ เงินทุนระยะสั้น
การดำเนินธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) จำเป็นต้องมีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อให้สามารถดำเนินกิจการได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีความต้องการเงินสดเร่งด่วน เงินทุนระยะสั้นจึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ SME สามารถบริหารจัดการกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ